เมื่อย่างเข้าสู่เดือนธันวาคม กลิ่นหอมของอบเชยและเสียงเพลงแครอลก็เริ่มโชยมาพร้อมกับแสงไฟระยิบระยับตามหัวมุมเมือง เป็นสัญญาณว่าเทศกาลแห่งความสุขได้เริ่มต้นขึ้น หัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการเริ่มต้นฤดูแห่งการเฉลิมฉลองนี้คือ ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) ตลาดเหล่านี้เป็นมากกว่าแหล่งช้อปปิ้งของขวัญ แต่เป็นประตูที่เชื่อมโยงเราเข้ากับประเพณีอายุหลายร้อยปีจากดินแดนยุโรป
ย้อนรอย: จากตลาดนัดฤดูหนาว สู่เทศกาลแห่งของขวัญ
ตลาดคริสต์มาสที่คุ้นเคยในปัจจุบันมีรากฐานย้อนไปได้ถึงยุคกลาง (Late Middle Ages) ราวศตวรรษที่ 14 บนดินแดนของประเทศเยอรมนี ในยุคแรกเริ่มตลาดเหล่านี้ยังไม่ได้มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับวันคริสต์มาส แต่ถูกจัดขึ้นในฐานะ “December Markets” หรือตลาดนัดธันวาคมที่จัดตามฤดูกาล เพื่อให้ผู้คนได้เตรียมเสบียงและของใช้สำหรับฤดูหนาวอันยาวนาน
จนกระทั่งภายหลังได้กลายมาเป็น “ตลาดคริสต์มาสที่แท้จริง” (True Christmas Market) โดยเน้นการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล Advent และการซื้อของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส ซึ่งต้นกำเนิดของวัฒนธรรมนี้คือ Dresden’s Striezelmarkt ในเยอรมนี จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1434 นับเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
อีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงระดับโลกไม่แพ้กันคือ Christkindlesmarkt ในเมืองนูเรมเบิร์ก ซึ่งเชื่อว่ามีร่องรอยการจัดงานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1530 ความพิเศษคือมีการตั้งกฎระเบียบในการคัดสรรสินค้าที่เข้มงวด โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะต้องเป็น สินค้าทำมือที่มีคุณภาพเท่านั้น เกิดเป็นธรรมเนียมการควบคุมคุณภาพ ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือให้กับตลาดคริสต์มาสยุโรปมาจนถึงปัจจุบัน
ปักหมุดฉลองปี 2025: รวมลิสต์คริสต์มาสในเมือง
แม้คริสต์มาสจะไม่ใช่เทศกาลดั้งเดิมของไทย แต่กรุงเทพมหานครก็ได้โอบรับการเฉลิมฉลองนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะศูนย์การค้าและแลนด์มาร์กสำคัญที่เนรมิตพื้นที่ให้กลายเป็นจุดเช็คอินสุดอลังการ ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างประสบการณ์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี สำหรับในปี 2025 นี้ มีตลาดคริสต์มาสและเทศกาลน่าสนใจในกรุงเทพฯ ที่ไม่ควรพลาด
1. ONE BANGKOK ONEDEROUS CHRISTMAS 2025: ธีมเทพนิยายผสานความเป็นไทย
โครงการ วัน แบงค็อก สร้างปรากฏการณ์คริสต์มาสสุดตระการตาในธีม “The Onedertale Christmas” เป็นการเนรมิตดินแดนเทพนิยายที่ผสมผสานศิลปะเหนือจินตนาการเข้ากับมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล
ไฮไลต์ในปีนี้คือการสร้างสรรค์ “ต้นคริสต์มาสเจดีย์สน” (Enchanted Pagoda Christmas Tree) บริเวณ One Bangkok Boulevard ซึ่งผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยเข้ากับจิตวิญญาณคริสต์มาสอย่างลงตัว เช่น การนำองค์ประกอบอย่างกินนร-กินรี และพญานาค มาอยู่ในฉากป่าหิมะแห่งเวทย์มนต์ นอกจากนี้ยังมีตลาดคริสต์มาสถึง 4 จุด ตลอดงาน เช่น Onedertale Christmas Market ที่เน้นสินค้าดีไซน์และเวิร์คช็อป
ตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 มกราคม 2026
2. CentralWorld: อาณาจักรต้นคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย
เซ็นทรัลเวิลด์ยังคงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ดึงดูดผู้คนด้วยการประดับไฟและตกแต่งตามฤดูกาลอย่างสวยงามทุกปี จุดขายที่ทำให้กลายเป็นจุดเช็คอินระดับประเทศคือการเป็นที่ตั้งของ ต้นคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปี 2025 จัดขึ้นภายใต้ธีม “Merry Ville” ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับซานตาคลอสตัวจริงจากประเทศนอร์เวย์ และเพลิดเพลินกับตลาดอาหาร FYI Market นอกจากนี้ยังมีการนำ Art Toy Characters ชื่อดังกว่า 23 ตัว มาจัดแสดงทั่วบริเวณ
ตั้งแต่วันนี้ถึง 6 มกราคม 2026
3. Asiatique The Riverfront: เทศกาลริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ นำเสนอเทศกาลคริสต์มาสในรูปแบบ “Tropical Twist” สถานที่แห่งนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางความรื่นเริงริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป จุดเด่นคือ ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำ พร้อมกับชิงช้าสวรรค์ (Asiatique Sky) ที่ประดับไฟสวยงาม มอบวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่โรแมนติก บรรยากาศริมน้ำที่แปลกใหม่และกิจกรรมหลากหลายทำให้เอเชียทีคเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเฉลิมฉลองปลายปี
ตั้งแต่วันนี้ ถึง 5 มกราคม 2026
การเฉลิมฉลองเหล่านี้ เป็นเครื่องยืนยันว่าเทศกาลแห่งความสุขไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นการตามหาของขวัญชิ้นพิเศษ การสัมผัสบรรยากาศคึกคักแบบยุโรป หรือการเดินเล่นท่ามกลางแสงไฟสวย ๆ ตลาดคริสต์มาสในเมืองไทยก็สามารถมอบความสุขและเติมเต็มจิตวิญญาณแห่งการให้ในช่วงเทศกาลปลายปีได้อย่างแน่นอน