แอร์เอเชียเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ 3 เส้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูง ไม่ว่าจะเป็น สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และบุรีรัมย์ การเปิดเส้นทางใหม่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ไม่เหมือนใครของแอร์เอเชียที่ให้บริการจากสนามบินหลักทั้งสองแห่งของกรุงเทพฯ คือดอนเมืองและสุวรรณภูมิ
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เผยว่า “การมีฐานปฏิบัติการในสองสนามบินนี้ไม่ใช่แค่การเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสาร แต่เป็นการสร้างโอกาสใหม่ในการเชื่อมต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาถึงสุวรรณภูมิให้สามารถเดินทางต่อไปยังจังหวัดต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น”
แอร์เอเชียได้วางแผนความถี่เที่ยวบินให้เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละปลายทาง โดยเส้นทางสุวรรณภูมิ-สุราษฎร์ธานี และสุวรรณภูมิ-นราธิวาส จะมีเที่ยวบินวันละ 1 เที่ยว ส่วนเส้นทางสุวรรณภูมิ-บุรีรัมย์ จะให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์
โปรโมชั่นเปิดตัวสุดคุ้ม ไม่ถึงพันบาท
เพื่อฉลองการเปิดเส้นทางใหม่ แอร์เอเชียได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเส้นทางภายในประเทศจากสุวรรณภูมิ ในราคาเริ่มต้นเพียง 950 บาทต่อเที่ยว ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับต้นทุนการเดินทางรูปแบบอื่น
ผู้โดยสารสามารถจองตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม เพื่อเดินทางได้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ www.airasia.com และแอปพลิเคชัน AirAsia MOVE
ความคึกคักยังไม่จบเพียงเท่านี้ เนื่องจากแอร์เอเชียวางแผนเปิดบริการอีก 2 เส้นทางจากสุวรรณภูมิไปยังเชียงรายและนครศรีธรรมราชในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ซึ่งจะทำให้มีเส้นทางภายในประเทศจากสุวรรณภูมิทั้งหมด 11 เส้นทาง
เมื่อรวมกับเส้นทางจากดอนเมืองอีก 22 เส้นทาง และเส้นทางข้ามภูมิภาค 8 เส้นทาง แอร์เอเชียจะมีเครือข่ายเส้นทางภายในประเทศรวม 41 เส้นทาง พร้อมให้บริการสูงสุด 118 เที่ยวบินต่อวัน
เสริมความแข็งแกร่งด้วยรางวัลระดับโลก
ความมั่นใจในการขยายตัวครั้งนี้มาจากฐานะที่แข็งแกร่งของแอร์เอเชีย ที่เพิ่งได้รับการยกย่องเป็น “สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก” จากสถาบันสกายแทรกซ์ เป็นปีที่ 16 ติดต่อกัน พร้อมทั้งมีสถิติความตรงต่อเวลาสูงสุดในประเทศไทยจากสถาบัน Cirium
การเปิดเส้นทางใหม่ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขยายตัวทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนในจังหวัดต่างๆ เข้าถึงการเดินทางที่สะดวกและประหยัด ขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างยั่งยืน